ขั้นตอนการผ่าตัด:
-
แผลผ่าตัด: ทำแผลเล็กขนาด 1–2 ซม. ภายในกระพุ้งแก้มด้านใน ปกติจะอยู่ตรงข้ามกับฟันกรามบน
-
การนำไขมันออก: ศัลยแพทย์จะนำไขมันส่วนเกินออกในปริมาณที่เหมาะสม
-
เย็บปิดแผล: ใช้ไหมละลาย เย็บปิดแผลภายในปาก
สำหรับผู้ที่ต้องการใบหน้าที่เรียวชัดและลดความบวมบริเวณแก้ม การผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มที่โรงพยาบาล WIH คือทางเลือกที่เหมาะสม การผ่าตัดนี้เน้นการนำไขมันที่อยู่ลึกในบริเวณกระพุ้งแก้มออก เพื่อสร้างโครงหน้าที่ดูสมส่วน เรียวขึ้น และเสริมความมั่นใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ไขมันกระพุ้งแก้ม (Buccal Fat Pad) คือ กลุ่มไขมันที่อยู่ลึกภายในบริเวณแก้มส่วนล่าง ระหว่างกล้ามเนื้อบนใบหน้า ซึ่งมีหน้าที่ช่วยให้ใบหน้าดูอวบอิ่มและกลมกลึง โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็ก ไขมันส่วนนี้มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ทำให้ใบหน้าดู “กลม” หรือมีลักษณะ “แก้มยุ้ย” และแม้ว่าร่างกายจะผอมลง ไขมันกระพุ้งแก้มก็อาจยังคงอยู่ ทำให้หลายคนรู้สึกว่าใบหน้าไม่เรียวหรือไม่ชัดตามต้องการ
การตัดไขมันกระพุ้งแก้ม หรือที่เรียกว่า Buccal Fat Removal/ Buccal Lipectomy เป็นการผ่าตัดเพื่อลดความบวมของแก้มส่วนล่าง ซึ่งมักทำให้ใบหน้าดูเป็น “แก้มยุ้ย” หรือ “หน้าทารก” โดยเป้าหมายคือการปรับรูปหน้าให้เรียวเป็นทรง V-shape ดูอ่อนเยาว์อย่างกลมกลืน
ที่โรงพยาบาลนานาชาติ WIH เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความพึงพอใจของผู้รับบริการเป็นอันดับแรก โดยมีทีมศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญ ดำเนินการภายใต้มาตรฐานวิชาชีพ พร้อมเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยในกรุงเทพมหานคร เพื่อให้บริการที่มีคุณภาพและผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ผู้ที่มีแก้มยุ้ยแม้มีรูปร่างปกติ
ต้องการเสริมโครงแก้มให้ชัดเจน
มีความคาดหวังที่เป็นจริง
เข้าใจว่าไขมันบนใบหน้าจะลดลงตามวัย
การเดินทางเริ่มต้นที่ WIH ด้วยการปรึกษากับศัลยแพทย์ที่ได้รับการรับรอง
ศัลยแพทย์จะประเมินโครงสร้างใบหน้า คุณภาพผิว และความโดดเด่นของไขมันกระพุ้งแก้ม
ผ่าตัดได้ภายใต้ยาชาเฉพาะที่หรือยาระงับความรู้สึก (IV sedation) หรืออาจใช้ยาสลบในกรณีที่ทำร่วมกับหัตถการอื่น
สัปดาห์ที่ 1: มีอาการบวมเล็กน้อย อาจรู้สึกไม่สบาย ให้พักผ่อนและประคบเย็น
สัปดาห์ที่ 2–4: เริ่มกลับไปทำกิจกรรมเบา ๆ ได้
เดือนที่ 1–2: แผลภายในปากหายดี ใบหน้าจะเริ่มเรียวลง
เดือนที่ 3–6: โครงหน้าสุดท้ายจะเริ่มชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
แพทย์จะพิจารณาโครงหน้าและอายุ เพื่อกำหนดปริมาณไขมันที่จะเอาออกให้เหมาะสม ไม่ให้หน้าดูตอบในระยะยาว
เห็นผลเริ่มต้นเมื่ออาการบวมลดลง (ภายใน 1–2 สัปดาห์) แต่ผลลัพธ์ชัดเจนจะใช้เวลาประมาณ 3–6 เดือน
คุณสามารถพูดคุยกับศัลยแพทย์ได้ แต่ปริมาณที่แน่นอนจะถูกตัดสินโดยแพทย์ตามหลักการทางการแพทย์
โดยทั่วไปสามารถกลับไปทำงานหรือกิจกรรมเบา ๆ ได้ภายใน 3–7 วัน และหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก 1–2 สัปดาห์
ได้ เช่น การเสริมคาง การปรับรูปกราม การทำจมูก หรือการดึงหน้า เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น