การทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคริดสีดวงทวารและการผ่าตัดริดสีดวงทวาร
โรคริดสีดวงทวาร (Piles) คืออะไร?
ริดสีดวงทวาร หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า Piles คืออาการที่เส้นเลือดบริเวณส่วนล่างของลำไส้ตรงและทวารหนักบวมและอักเสบ
สาเหตุของโรคริดสีดวงทวารมักเกิดจากแรงดันที่เพิ่มขึ้นในลำไส้ตรงส่วนล่าง เช่น อาการท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง การเบ่งอุจจาระอย่างรุนแรง การนั่งเป็นเวลานาน การตั้งครรภ์ โรคอ้วน และการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย
- ริดสีดวงทวารภายใน (Internal Hemorrhoids): เกิดขึ้นภายในลำไส้ตรง มักมองไม่เห็นหรือคลำไม่ได้จากภายนอก โดยทั่วไปจะไม่เจ็บปวด แต่อาจมีเลือดออกขณะขับถ่าย
- ริดสีดวงทวารภายนอก (External Hemorrhoids): เกิดขึ้นใต้ผิวหนังรอบทวารหนัก อาจทำให้เกิดอาการคัน ปวด และบางครั้งมีเลือดออกเมื่อมีลิ่มเลือด
- ริดสีดวงทวารแบบยื่นออกมา (Prolapsed Hemorrhoids): คือริดสีดวงทวารภายในที่ขยายใหญ่และยื่นออกมานอกหูรูดทวารหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกได้
สัญญาณและอาการของโรคริดสีดวงทวาร (Piles)
- เลือดออกทางทวารหนัก
- อาการคันบริเวณทวารหนัก
- อาการปวดหรือไม่สบายตัวบริเวณทวารหนัก
- อาการบวมหรือมีก้อนเนื้อบริเวณรอบทวารหนัก
- มีเมือกไหลออกมา
- รู้สึกเหมือนขับถ่ายไม่สุด
- ติ่งเนื้อยื่นออกมาจากทวารหนัก
การผ่าตัดริดสีดวงทวาร (Hemorrhoidectomy) คืออะไร?
การผ่าตัดริดสีดวงทวารคือขั้นตอนการผ่าตัดเพื่อนำริดสีดวงทวารออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีขนาดใหญ่ รุนแรง หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่นที่ไม่ใช่การผ่าตัด ซึ่งถือเป็นการรักษาที่ได้ผลและแน่นอนที่สุดสำหรับโรคริดสีดวงทวารระยะรุนแรงหรือที่เป็นซ้ำ
ใครบ้างที่ควรเข้ารับการผ่าตัดริดสีดวงทวาร?
- ริดสีดวงทวารภายนอกที่มีขนาดใหญ่และมีอาการ
- ริดสีดวงทวารภายในระดับ 3 หรือ 4
- อาการยังคงอยู่ไม่หายไป
- ริดสีดวงทวารภายนอกชนิดมีลิ่มเลือด
- ริดสีดวงทวารทั้งภายในและภายนอกร่วมกัน
ที่โรงพยาบาลดับบลิวไอเอช ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านลำไส้ใหญ่และทวารหนักของเราจะทำการประเมินผู้ป่วยแต่ละรายอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
การวินิจฉัยโรคริดสีดวงทวาร
- การซักประวัติ: ศัลยแพทย์จะสอบถามอาการโดยละเอียด รวมถึงพฤติกรรมการขับถ่าย อาหารการกิน วิถีชีวิต และประวัติทางการแพทย์หรือการรักษาที่ผ่านมา
- การตรวจร่างกาย: ศัลยแพทย์จะตรวจดูบริเวณทวารหนักด้วยตาเปล่าเพื่อหาริดสีดวงทวารภายนอก ติ่งเนื้อ หรือความผิดปกติอื่น ๆ
- การส่องกล้องตรวจทวารหนักและลำไส้ตรง (Anoscopy/Proctoscopy): เป็นการสอดกล้องขนาดเล็กเข้าไปในทวารหนักและลำไส้ตรงเพียงไม่กี่นิ้ว เพื่อดูริดสีดวงทวารภายในโดยตรง และประเมินขนาดและระดับของริดสีดวง
การดูแลก่อนและหลังการผ่าตัด
การดูแลก่อนการผ่าตัด
- พยาบาลจะให้คำแนะนำในการเตรียมลำไส้ด้วยการใช้ยาเหน็บหรือยาระบาย
- ปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องการงดอาหารและน้ำทุกอย่าง
- งดสูบบุหรี่ 1-2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
- จะมีการให้สารน้ำและยาผ่านทางสายน้ำเกลือ (IV)
การดูแลหลังการผ่าตัด
- ทีมพยาบาลผู้มีประสบการณ์จะคอยดูแลผู้ป่วยในห้องพักฟื้น
- ศัลยแพทย์จะสั่งยาเพื่อบรรเทาอาการปวดและไม่สบายตัว
- พยาบาลจะให้คำแนะนำในการดูแลบริเวณทวารหนัก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะต้องรักษาความสะอาดและแห้งอยู่เสมอ และมักแนะนำให้อาบน้ำอุ่นในอ่าง (Sitz bath) วันละหลายครั้ง
- ผู้ป่วยจะเริ่มด้วยการดื่มน้ำและค่อยๆ เปลี่ยนไปทานอาหารอ่อนหรืออาหารปกติ
ระยะเวลาในการฟื้นตัว
- สัปดาห์ที่ 1: เน้นการรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงและดื่มน้ำให้เพียงพอ
- สัปดาห์ที่ 2: ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำงานเบาๆ ได้ (งานที่ต้องนั่งโต๊ะ) แต่ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก
- สัปดาห์ที่ 3-4: ผู้ป่วยสามารถค่อยๆ เพิ่มระดับกิจกรรม รวมถึงการออกกำลังกายระดับปานกลางได้
- สัปดาห์ที่ 4-6: สามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติทั้งหมดได้ และควรดูแลให้มีพฤติกรรมการขับถ่ายที่ดี (เน้นอาหารที่มีกากใยและดื่มน้ำให้เพียงพอ)
ประโยชน์ของการผ่าตัดริดสีดวงทวาร
- ช่วยบรรเทาอาการอย่างถาวร: บรรเทาอาการปวดและไม่สบายตัว, เลือดออก, อาการคัน, ระคายเคือง และติ่งเนื้อยื่น
- กำจัดเนื้อเยื่อริดสีดวงที่เป็นปัญหา
- ลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำ
- ป้องกันภาวะแทรกซ้อน
- เป็นวิธีแก้ปัญหาระยะยาว
- ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ทำไมถึงต้องเลือกโรงพยาบาลดับบลิวไอเอช อินเตอร์เนชั่นแนล?
ที่โรงพยาบาลดับบลิวไอเอช เราเชี่ยวชาญในเทคนิคการผ่าตัดแบบแผลเล็กและเน้นการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ทีมศัลยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของเราพร้อมมอบ:
- การวินิจฉัยที่แม่นยำและแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
- ห้องผ่าตัดที่ทันสมัย
- การสนับสนุนและการดูแลหลังการผ่าตัด
- ความเป็นส่วนตัวและความสบายตลอดระยะเวลาพักฟื้นของคุณ
FAQ
โดยปกติแล้ว การผ่าตัดริดสีดวงทวารจะทำภายใต้การดมยาสลบ วิสัญญีแพทย์จะหารือเกี่ยวกับทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
การผ่าตัดริดสีดวงทวารหลายกรณีสามารถทำได้แบบผู้ป่วยนอก ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางราย หรือผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่ซับซ้อน อาจจำเป็นต้องพักค้างคืนที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลอาการปวดและสังเกตอาการ
การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์อาจใช้เวลาตั้งแต่ 2 ถึง 6 สัปดาห์ หรือบางครั้งอาจนานกว่านั้นเพื่อให้รู้สึกสบายตัวเต็มที่ คนส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจกรรมเบาๆ และทำงานที่ต้องนั่งโต๊ะได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากเป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของศัลยแพทย์
Modern silicone implants are highly durable and designed to last for many years. However, your body will continue to change with age. Maintaining a stable weight and a healthy lifestyle will help preserve your beautiful results for the long term.
