เทคนิคการผ่าตัดลดโหนกคิ้ว

โดยทั่วไปแล้ว มีเทคนิคหลัก ๆ ไม่กี่วิธีที่ใช้ในการผ่าตัดลดโหนกคิ้ว ซึ่งจะถูกเลือกตามโครงสร้างกระดูกเฉพาะบุคคลและระดับของการลดขนาดที่ต้องการ:

• เทคนิคที่ 1: การกรอกระดูก (Bone Shaving/Burring) เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีสันคิ้วไม่นูนเด่นมากนัก และโพรงไซนัสหน้าผาก (frontal sinus) ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ศัลยแพทย์จะทำการกรอหรือขูดชั้นนอกของกระดูกอย่างระมัดระวังโดยใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อลดความนูนของกระดูกลง

• เทคนิคที่ 2: การกรอกระดูกร่วมกับการเสริมด้วยซีเมนต์กระดูก (Bone Shaving with Bone Cement/Augmentation) สำหรับผู้ป่วยบางราย แม้ว่ากระดูกโหนกคิ้วจะถูกลดขนาดลงแล้ว แต่อาจจำเป็นต้องมีการเติมหรือปรับให้เรียบในบริเวณเหนือคิ้วเพื่อสร้างรูปทรงที่กลมกลืน ในกรณีเหล่านี้ ซีเมนต์กระดูกหรือวัสดุที่คล้ายกันจะถูกนำมาใช้เพื่อปรับรูปร่างให้เหมาะสมที่สุด และสร้างการเปลี่ยนผ่านที่เรียบเนียนจากหน้าผากไปยังขมับ เทคนิคนี้มักใช้เมื่อต้องการปรับมุมระหว่างจมูกและหน้าผากอย่างละเอียด

• เทคนิคที่ 3: การสร้างหน้าผากใหม่ (Forehead Reconstruction/Frontal Sinus Setback) นี่คือเทคนิคที่ครอบคลุมที่สุดและมักใช้สำหรับผู้ที่มีสันคิ้วที่นูนเด่นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโพรงไซนัสหน้าผากมีขนาดใหญ่และอยู่ด้านหลังกระดูกที่ยื่นออกมาโดยตรง ในขั้นตอนนี้ ผนังด้านหน้าของโพรงไซนัสหน้าผากจะถูกถอดออกอย่างระมัดระวัง ปรับรูปร่างอย่างพิถีพิถัน และยึดกลับเข้าไปใหม่ในตำแหน่งที่ร่นเข้าไปด้านในมากขึ้น โดยใช้แผ่นไทเทเนียมและสกรูขนาดเล็ก วิธีนี้ช่วยให้สามารถลดขนาดและปรับรูปทรงหน้าผากได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่นุ่มนวลที่สุด

ใครคือผู้ที่เหมาะสมสำหรับการผ่าตัดลดโหนกคิ้ว?

ผู้ที่เหมาะสำหรับการผ่าตัดลดโหนกคิ้วคือบุคคลที่:

• มีสันคิ้วที่นูนเด่น: การผ่าตัดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระดูกคิ้วที่นูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งพวกเขารู้สึกว่าไม่สมส่วนกับใบหน้าโดยรวม หรือทำให้ใบหน้าดูเป็นชายมากขึ้น
• ต้องการปรับใบหน้าให้ดูอ่อนหวานขึ้น (Facial Feminization): การผ่าตัดลดโหนกคิ้วเป็นส่วนหนึ่งของการศัลยกรรมปรับรูปหน้าเพื่อความงาม (Facial Feminization Surgery – FFS) สำหรับผู้หญิงข้ามเพศและบุคคลที่ต้องการปรับลดลักษณะที่ดูเป็นชายลง เพื่อให้ได้รูปหน้าที่ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้นและมีความสมดุล

การเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดลดโหนกคิ้วที่ WIH Hospital

1. การปรึกษาแบบเฉพาะบุคคล

• การพูดคุยเกี่ยวกับเป้าหมาย: เราจะหารือถึงเป้าหมาย ความต้องการด้านความงามสำหรับโหนกคิ้วและรูปหน้าโดยรวมของคุณ
• การประเมินประวัติทางการแพทย์: จะมีการประเมินประวัติสุขภาพปัจจุบัน ยาที่ใช้ และอาการแพ้ใด ๆ
• การตรวจร่างกาย: เพื่อประเมินรูปร่าง ความยืดหยุ่นของผิวหนัง และปริมาณไขมันของผู้บริจาค (ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการเสริม) ศัลยแพทย์ของคุณจะพิจารณาว่าคุณมีไขมันเพียงพอสำหรับการเสริมตามที่ต้องการหรือไม่

2. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด

• การประเมินทางการแพทย์อย่างละเอียด: คุณจะได้รับการตรวจสุขภาพอย่างละเอียด รวมถึงการตรวจเลือดและการตรวจวินิจฉัยอื่น ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีสุขภาพที่ดีที่สุดสำหรับการผ่าตัด
• การปรึกษาทีมวิสัญญีแพทย์: ทีมวิสัญญีแพทย์ของเราจะให้คำปรึกษาเพื่อตอบข้อสงสัยที่คุณอาจมี และสรุปแผนการระงับความรู้สึกเพื่อความสบายและความปลอดภัยของคุณ
• คำแนะนำจากพยาบาล: เจ้าหน้าที่พยาบาลของเราจะให้คำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับการงดอาหาร การปรับยา และระเบียบปฏิบัติในการรักษาความสะอาดก่อนการผ่าตัด

3. การระงับความรู้สึก

• วิสัญญีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ของเราจะให้ยาระงับความรู้สึกแบบทั่วไป (general anesthesia) เพื่อให้แน่ใจว่าคุณหลับอย่างปลอดภัยและไม่รู้สึกตัวตลอดการผ่าตัด

การดูแลหลังการผ่าตัดและการฟื้นตัวหลังการลดโหนกคิ้ว

ช่วงหลังการผ่าตัดทันที

• คุณจะรู้สึกไม่สบาย บวม และมีรอยช้ำบริเวณหน้าผากและรอบดวงตา
• จะมียาแก้ปวดตามใบสั่งแพทย์เพื่อช่วยจัดการความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• สิ่งสำคัญคือต้องยกศีรษะให้สูง โดยเฉพาะเวลานอน โดยใช้หมอนหลายใบหรือหมอนรองคอ ซึ่งจะช่วยลดอาการบวม

สัปดาห์ที่ 1-2

• หากมีการใช้ไหมที่ไม่ละลาย ไหมจะถูกเอาออกประมาณ 7-10 วันหลังการผ่าตัดในนัดหมายติดตามผลที่ WIH Hospital
• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก การยกของหนัก และการก้มตัวมากเกินไป
• การเดินเบา ๆ เป็นสิ่งที่แนะนำเพื่อส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต

สัปดาห์ที่ 3-6 และหลังจากนั้น

• แม้ว่าผลลัพธ์เบื้องต้นจะเริ่มปรากฏให้เห็นเมื่ออาการบวมลดลง แต่ผลลัพธ์ด้านความงามขั้นสุดท้ายของการลดโหนกคิ้วของคุณอาจใช้เวลาหลายเดือน (3-6 เดือน บางครั้งอาจถึงหนึ่งปี) กว่าจะปรากฏให้เห็นอย่างสมบูรณ์ เมื่ออาการบวมที่เหลือทั้งหมดลดลงและเนื้อเยื่อเข้าที่

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัดลดโหนกคิ้ว

• อาการชาหรือการรับความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไป
• อาการบวมและรอยช้ำ
• ผมบางหรือผมร่วง
• ภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับโพรงไซนัสหน้าผาก (พบน้อยมาก)
• ความเจ็บปวด

ประโยชน์ของการผ่าตัดลดโหนกคิ้ว

• เพิ่มความกลมกลืนและความสมดุลของใบหน้า: ประโยชน์หลักคือการสร้างรูปหน้าผากที่เรียบเนียน อ่อนโยน และสวยงามยิ่งขึ้น ซึ่งกลมกลืนกับส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า
• ปรับลักษณะใบหน้าให้ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น: สำหรับผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าให้ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น ขั้นตอนนี้มีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้างรูปลักษณ์ที่ดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น โดยการลดความนูนเด่นของสันคิ้วที่ดูเป็นชาย
• เพิ่มความมั่นใจในตนเอง: การได้รูปลักษณ์ใบหน้าที่ต้องการสามารถนำไปสู่การเพิ่มความนับถือตนเองและคุณภาพชีวิตโดยรวมที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
• รูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์ขึ้น: ขั้นตอนนี้สามารถช่วยให้ดูสดชื่นและอ่อนเยาว์ขึ้นได้ เนื่องจากโหนกคิ้วที่นูนเด่นบางครั้งอาจทำให้ดูเคร่งขรึมหรือดูมีอายุ
• ผลลัพธ์ถาวร: การปรับรูปโครงสร้างกระดูกเป็นแบบถาวร ซึ่งให้การปรับปรุงด้านความงามที่คงอยู่ยาวนาน