ศัลยกรรมหู แก้หูกาง (Otoplasty) ที่โรงพยาบาล WIH

การผ่าตัดแก้ไขรูปทรงหู (Otoplasty) เป็นวิธีที่ช่วยปรับปรุงรูปร่าง ตำแหน่ง หรือขนาดของใบหูให้เหมาะสมขึ้น สามารถแก้ไขได้ทั้งความผิดปกติที่มีมาแต่กำเนิด หรือความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุหรือการรักษาก่อนหน้า โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ใบหูดูสมดุลและกลมกลืนกับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
 

ศัลยกรรมหู แก้ไขหูกาง แก้ไขรูปทรงหูครบวงจรที่โรงพยาบาล WIH

เพราะที่โรงพยาบาล WIH มีเทคนิคการแก้ไขรูปทรงหูที่หลากหลาย และปรับให้เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายความสวยงามของแต่ละบุคคล

การแก้ไขหูปีกค้างคาว หรือ หูหนีบ (Prominent Ear Otoplasty)

เทคนิคนี้จะปรับแต่งกระดูกอ่อนของใบหู เพื่อสร้างหรือเสริมร่องและรูปทรงตามธรรมชาติ พร้อมดันหูให้ชิดกับศีรษะมากขึ้น หากจำเป็น แพทย์สามารถลดขนาดของบริเวณก้นหู (concha) เพื่อปรับสัดส่วนและตำแหน่งของใบหูให้สมดุลมากขึ้น

เทคนิคปรับรูปทรงติ่งหู

  • ซ่อมแซมติ่งหูที่ฉีกขาดหรือแยกออก: เหมาะสำหรับติ่งหูที่เกิดการฉีกขาดบางส่วนหรือเต็มที่จากการใส่ต่างหูหนัก อุบัติเหตุ หรือจากการขยายรู
  • แก้ไขติ่งหูที่ขยายจากการใส่รูขนาดใหญ่ (Gauge Repair): ช่วยลดขนาดรูที่ยืดออก และฟื้นฟูติ่งหูให้กลับมาเป็นรูปทรงปกติ
  • ลดขนาดติ่งหู: เพื่อให้ติ่งหูมีขนาดที่เหมาะสมและสมดุลกับใบหน้าและใบหูส่วนอื่น
  • ปรับแต่งติ่งหูเพื่อความสวยงาม: ปรับรูปทรงติ่งหูให้ดูเรียบร้อยและสมดุล แก้ไขความไม่สมมาตรหรือความผิดปกติของติ่งหู

ผู้ที่เหมาะกับการแก้ไขรูปทรงหู (Otoplasty) และการปรับแต่งติ่งหู

  • กังวลเรื่องหูที่ชูหรือยื่นออกมา

  • หูไม่สมมาตรหรือมีความแตกต่างกัน

  • มีความคาดหวังที่เป็นไปได้จริง

  • มีติ่งหูฉีกขาดหรือขยายจากการใส่รูขนาดใหญ่ (stretched earlobe)

  • มีติ่งหูที่มีขนาดใหญ่หรือรูปร่างผิดปกติ

การปรึกษาและเตรียมตัวแบบเฉพาะบุคคล

  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะตรวจสอบโครงสร้างหูของคุณอย่างละเอียด ประเมินรูปร่าง ขนาด สัดส่วน และตำแหน่งของหู
  • อาจแนะนำให้ปรับหรือหยุดใช้ยาบางชนิดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • ควรงดสูบบุหรี่ล่วงหน้าหลายสัปดาห์ก่อนวันผ่าตัด

การดูแลก่อนและหลังผ่าตัดที่โรงพยาบาล WIH

การดูแลก่อนผ่าตัด

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยาอย่างเคร่งครัดตามที่แพทย์สั่ง

  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามคำแนะนำ

  • ปฏิบัติตามคำสั่งงดอาหารและน้ำตามที่กำหนด

การดูแลหลังผ่าตัด

  • พยาบาลผู้ดูแลจะติดตามอาการของคุณอย่างใกล้ชิดในพื้นที่พักฟื้น

  • อาจแนะนำให้ใส่ผ้าพันศีรษะหรือที่รัดศีรษะแบบเบา ๆ เป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางคืน

  • จะมีการนัดหมายติดตามผลกับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบการฟื้นตัวและผลการรักษา

ระยะเวลาการฟื้นตัวหลังผ่าตัด

  • ช่วงวันแรก (1-7 วัน): อาจมีอาการไม่สบายเล็กน้อย บวม ฟกช้ำ และชารอบ ๆ บริเวณผ่าตัด
  • สัปดาห์ที่ 1-2: อาการบวมและฟกช้ำจะลดลงมาก โดยปกติจะถอนไหมในช่วงนี้ และสามารถกลับไปทำกิจกรรมเบา ๆ รวมถึงทำงานหรือไปโรงเรียนได้
  • สัปดาห์ที่ 2-6: ควรใส่ผ้ารัดศีรษะตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่อง
  • เดือนที่ 3-6: ผลลัพธ์ของการผ่าตัดจะเห็นได้ชัดเจนและสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้

  • มีเลือดออกหรือเกิดรอยช้ำจากเลือดสะสม
  • การติดเชื้อ
  • ความไม่สมมาตร (ความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างสองข้างของหู)
  • การเปลี่ยนแปลงการรับรู้ความรู้สึกของผิวหนังบริเวณหู (ชาแบบชั่วคราว หรือในบางกรณีอาจเป็นถาวร)

ประโยชน์ที่ได้รับหลังการทำศัลยกรรมแก้ไขหู (Otoplasty) และการปรับรูปติ่งหู

  • สร้างความสมดุลให้กับใบหน้า: ทำให้หูดูมีสัดส่วนและเข้ากับใบหน้าและศีรษะอย่างเหมาะสม
  • เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง: รู้สึกสบายใจมากขึ้นในสถานการณ์สังคมและกับรูปลักษณ์โดยรวม
  • ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ: รูปลักษณ์หลังผ่าตัดดูเหมือนธรรมชาติอย่างแท้จริงรูปลักษณ์หลังผ่าตัดดูเหมือนธรรมชาติอย่างแท้จริง
  • ผลลัพธ์ยาวนาน: ผลลัพธ์จากการทำศัลยกรรมแก้ไขหูมักคงอยู่ถาวร

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ไม่ส่งผลต่อการได้ยินเพราะการผ่าตัดแก้ไขหู จะเน้นที่โครงสร้างหูด้านนอกเท่านั้น และจะไม่ส่งผลกระทบต่อการได้ยินของคุณ

ขั้นตอนการผ่าตัดจะใช้ยาสลบ จึงไม่รู้สึกเจ็บระหว่างการผ่าตัด

สามารถทำได้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขเพียงข้างเดียว หรือมีความไม่สมมาตรอย่างชัดเจน สามารถผ่าตัดแก้ไขหูเพียงข้างเดียวเพื่อให้ดูสมดุลกับอีกข้างได้

การปรับรูปติ่งหูมักใช้เวลาฟื้นตัวสั้นกว่าการผ่าตัดแก้ไขรูปทรงหู (otoplasty) โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ภายในไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์ และจะหายเป็นปกติอย่างสมบูรณ์ภายในไม่กี่สัปดาห์