ศัลยกรรมปรับรูปกรามที่โรงพยาบาล WIH เพื่อใบหน้าเรียวสมดุล

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการศัลยกรรมลดกราม (Mandibular Contouring)

การศัลยกรรมลดกราม หรือการปรับรูปกราม (Jawline Contouring) เป็นหัตถการทางศัลยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อลดความกว้างและความเด่นชัดของกระดูกกรามล่าง โดยเฉพาะบริเวณมุมกราม เพื่อช่วยให้รูปหน้าเรียวลง มีความสมดุล และดูนุ่มนวลยิ่งขึ้น

แนวทางเฉพาะของโรงพยาบาล WIH ในการปรับรูปกราม

ที่โรงพยาบาล WIH เราให้ความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการดูแลผู้รับบริการด้านศัลยกรรมลดกราม ตั้งแต่การให้คำปรึกษาเบื้องต้นไปจนถึงช่วงฟื้นตัวหลังผ่าตัด โดยมุ่งเน้นการออกแบบผลลัพธ์ให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความงามของแต่ละบุคคล พร้อมรักษาสมดุลของรูปหน้าอย่างกลมกลืน ผ่านความแม่นยำในการปรับกระดูกใบหน้าจากทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกใบหน้าและศัลยกรรมตกแต่งของเรา

ศัลยกรรมลดกราม และ ทำวีไลน์ เหมาะกับ ?

  • ผู้ที่มีกรามกว้าง กรามเหลี่ยม หรือแนวกรามชัดเจนโดยธรรมชาติ

  • ผู้ที่มีมุมกรามล่าง (Mandibular Angle) เด่นชัดหรือบานออกด้านข้างมากเกินไป

  • ผู้ที่มีสัดส่วนกรามไม่สมดุลเมื่อเทียบกับส่วนอื่นของใบหน้า

  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลง หรือให้มีรูปหน้าทรงวีไลน์ (V-line) อย่างชัดเจน

เทคนิคเฉพาะทางในการศัลยกรรมลดกราม

การลดมุมกราม (Mandibular Angle Reduction – Ostectomy)

เทคนิคพื้นฐานของการศัลยกรรมลดกราม โดยจะตัดแต่งกระดูกส่วนมุมกรามด้านนอก หรือส่วนหลังของกระดูกขากรรไกรออกอย่างแม่นยำ ด้วยเครื่องมือผ่าตัดเฉพาะทาง เช่น เลื่อยหรือลูกขัดกระดูก เพื่อให้รูปหน้าดูเรียวและนุ่มนวลยิ่งขึ้น

การกรอผิวกระดูกกราม (Cortical Bone Shaving)

เป็นเทคนิคที่ใช้การกรอหรือขัดผิวกระดูกชั้นนอก (Cortical Bone) อย่างระมัดระวัง เพื่อลดความหนาของกระดูกกราม และปรับรูปหน้าให้เรียบเนียนและสมส่วนมากขึ้น

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดศัลยกรรมลดกราม

  • การปรึกษาแบบรายบุคคล

จะมีการประเมินโครงสร้างใบหน้าอย่างละเอียด เช่น กระดูกกราม คาง กระดูกใบหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความหนาของเนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อบริเวณกราม เพื่อวางแผนการผ่าตัดที่เหมาะสมกับรูปหน้าเฉพาะบุคคล

  • การผ่าตัดจะดำเนินการภายใต้การวางยาสลบ : ผู้เข้ารับการรักษาจะหลับสนิทและไม่รู้สึกเจ็บตลอดระยะเวลาการผ่าตัด เพื่อความสบายและปลอดภัยสูงสุด

การดูแลก่อนและหลังการผ่าตัด

ก่อนการผ่าตัด

  • เข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างครบถ้วน รวมถึงตรวจเลือดและการทดสอบต่าง ๆ เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย

  • ปรึกษากับทีมวิสัญญีแพทย์ เพื่อชี้แจงแผนการวางยาสลบอย่างเหมาะสม

  • พยาบาลจะแนะนำเรื่องการงดอาหาร ยา และการดูแลสุขอนามัยก่อนการผ่าตัดอย่างละเอียด

หลังการผ่าตัด

  • ผู้ป่วยจะพักฟื้นที่โรงพยาบาล WIH เป็นเวลา 1 คืน เพื่อให้ทีมพยาบาลที่มีประสบการณ์ดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
  • แพทย์จะให้ยาบรรเทาอาการปวดตามความเหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายและลดความเจ็บหลังผ่าตัด
  • จะมีอาการบวมและรอยช้ำบริเวณแนวกราม คาง และลำคออย่างเห็นได้ชัดs.
  • ควรยกศีรษะให้อยู่ในระดับสูง (แม้ในขณะนอนหลับ) เป็นเวลาหลายสัปดาห์ เพื่อช่วยลดอาการบวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
  • ควรรับประทานอาหารเหลวหรืออาหารอ่อนอย่างเคร่งครัดในช่วงแรก (ตั้งแต่ไม่กี่วันจนถึงหลายสัปดาห์) เพื่อให้กระดูกกรามได้ฟื้นตัวโดยไม่เกิดแรงกระแทกหรือแรงกด

การฟื้นตัวหลังการศัลยกรรมลดกราม

  • สัปดาห์ที่ 1-2: อาการบวมและรอยช้ำมักเกิดขึ้นในช่วง 3-5 วันแรก อาจมีอาการไม่สบาย ชาเฉพาะที่ชั่วคราว และความตึงบริเวณกราม อาหารประเภทน้ำหรืออาหารนิ่มจะต้องรับประทานอย่างเคร่งครัด

  • สัปดาห์ที่ 3 ถึง 3 เดือน: อาการบวมหายไปมากขึ้น รูปร่างกรามใหม่เริ่มชัดเจนขึ้น และโครงหน้าเริ่มมีความคมชัดมากขึ้น

  • 6 เดือน ถึง 1 ปี: อาการบวมที่เหลืออยู่จะหายเป็นปกติทั้งหมด รูปร่างกรามที่ปรับแต่งจะเห็นได้ชัดเจน กระดูกฟื้นตัวเต็มที่ และกรามใหม่มีความมั่นคง ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติ รวมถึงการออกกำลังกายหนักและกีฬาที่ต้องใช้การปะทะได้ตามปกติ

ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

  • อาการบวม

  • รอยช้ำ

  • อาการเจ็บปวด

  • ชาหรือความรู้สึกเปลี่ยนแปลงชั่วคราว (โดยเฉพาะบริเวณริมฝีปากล่างหรือคาง เนื่องจากใกล้กับเส้นประสาท inferior alveolar)

  • ความยากลำบากในการเปิดปากชั่วคราว

  • การติดเชื้อ (พบได้น้อยและสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวด)

ประโยชน์ของการศัลยกรรมลดกราม

  • โครงหน้าดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น: ช่วยเปลี่ยนกรามที่กว้าง เหลี่ยม หรือหนา ให้เป็นเส้นโค้งที่อ่อนโยนและสวยงามมากขึ้น

  • ได้รูปหน้าทรงวีหรือรูปไข่ที่ต้องการ: ช่วยสร้างโครงหน้า “วีไลน์” ที่ได้รับความนิยมในด้านความงาม

  • ปรับสมดุลของใบหน้า: แก้ไขความไม่สมดุลหรือความโดดเด่นของกรามที่มากเกินไป ทำให้ใบหน้าดูสมมาตรมากขึ้น

  • ดูอ่อนเยาว์ขึ้น: กรามที่เรียวเล็กและคมชัดช่วยให้ใบหน้าดูสดชื่นและไม่หนัก ดูเด็กลง

  • ผลลัพธ์ถาวร: เป็นการปรับรูปกรามอย่างถาวรโดยการแก้ไขโครงสร้างกระดูกใต้ผิวหนัง

FAQ

ประมาณ 2–4 ชั่วโมง ขึ้นกับความกว้างของมุมกราม เทคนิคที่ใช้ และมีการทำคาง/โหนกแก้มร่วมด้วยหรือไม่

 

โดยมาตรฐานเปิดแผล “ด้านในช่องปาก” จึงไม่เห็นแผลภายนอก ผิวหน้าเรียบเนียน กรณีจำเป็นเฉพาะรายอาจมีแผลเล็กภายนอกและซ่อนแนว

 

ทรงหน้าเปลี่ยนทันทีแต่บวมเด่นใน 1–2 สัปดาห์ รูปทรงเริ่มใกล้จริงที่ 6–12 สัปดาห์ คงที่ชัดเจนราว 3–6 เดือน และเข้าที่เต็มที่ 6–12 เดือน

 

  • นอน รพ. 1 คืน กลับบ้านวันถัดไป
  • งานออฟฟิศ: ประมาณ 10–14 วัน
  • ออกกำลังกายเบา: หลัง 4 สัปดาห์
  • ออกกำลังกายหนัก/ปะทะ: 8–12 สัปดาห์
  • อาหาร: เหลว–นิ่มเคร่งครัด 2–4 สัปดาห์ ศีรษะสูงเพื่อลดบวม

โครงกระดูกที่ตัดแต่งมีความถาวร ผลลัพธ์ระยะยาวยังขึ้นกับอายุ น้ำหนักตัว กล้ามเนื้อบดเคี้ยว และพฤติกรรมการใช้งานขากรรไกร

  • ทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางโครงหน้าและศัลยกรรมตกแต่ง ทำหัตถการเข้าทางในปากเป็นมาตรฐาน

  • วางแผนละเอียดจากโครงสร้างกระดูก-คาง-สัดส่วนใบหน้า ให้สมดุลและเข้ากับเป้าหมายความงามรายบุคคล

  • วิสัญญีแพทย์ดูแลตลอดเคส ห้องผ่าตัดมาตรฐาน และการเฝ้าระวัง 1 คืน

  • แนวทางดูแลก่อน-หลังผ่าตัดเป็นระบบ อาหารนิ่ม คำแนะนำชัด นัดติดตามต่อเนื่อง

  • สามารถวางแผนร่วมหัตถการ V-line/คาง/โหนกแก้ม ให้ได้ผลลัพธ์ที่กลมกลืนในครั้งเดียวตามความเหมาะสม