สร้างใบหน้าสมดุลที่สมบูรณ์แบบที่โรงพยาบาล WIH International
ศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
ที่โรงพยาบาล WIH International เราเล็งเห็นว่าการมีรูปหน้าที่สมดุลและกลมกลืนเป็นพื้นฐานสำคัญของความมั่นใจและภาพลักษณ์ตัวเอง การเสริมหน้าผากเป็นการผ่าตัดตกแต่งที่ทันสมัย ออกแบบมาเพื่อปรับรูปทรง เส้นโค้ง และปริมาตรโดยรวมของหน้าผาก เพื่อให้ใบหน้าดูสมดุล โดดเด่น หรือโค้งมนอย่างเป็นธรรมชาติ ขั้นตอนนี้ช่วยแก้ไขปัญหาที่พบบ่อย เช่น หน้าผากแบน หน้าผากลึก ไม่สมมาตร หรือสั้นเกินไป นอกจากประโยชน์ด้านความงามแล้ว การเสริมหน้าผากยังเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างรูปทรงหน้าผากที่ดูเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายชัดเจนมากขึ้น
ทำความเข้าใจกับการเสริมหน้าผากและผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงความงาม
หน้าผากเป็นส่วนที่สำคัญแต่หลายคนมักมองข้าม เพราะมีผลต่อความสมดุลและลักษณะโดยรวมของใบหน้า หน้าผากที่มีสัดส่วนเหมาะสมช่วยส่งเสริมสัดส่วนใบหน้าที่งดงามและเสริมคุณสมบัติอื่น ๆ บนใบหน้าให้กลมกลืน
ที่โรงพยาบาล WIH ทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินโครงสร้างใบหน้าและความต้องการด้านความงามของแต่ละคนอย่างละเอียด
-
ปรับสัดส่วนใบหน้าให้เหมาะสม: เราช่วยปรับหน้าผากให้สมดุลกับช่วงกลางและล่างของใบหน้า เพื่อให้โครงหน้าดูเป็นหนึ่งเดียวและน่ามองมากขึ้น
-
ปรับรูปโปรไฟล์ให้สวยงาม: ช่วยให้หน้าผากมีเส้นโค้งเรียบเนียนจากแนวผมถึงกระดูกคิ้ว เพิ่มเสน่ห์เมื่อมองจากด้านข้าง
-
ปรับแต่งรูปทรงอย่างละเอียด: แก้ไขความไม่สมดุลหรือรอยบุ๋ม เพื่อให้หน้าผากเรียบเนียนและสวยงามมากขึ้น
-
เหมาะกับการศัลยกรรมยืนยันเพศ: สำหรับผู้ที่ทำศัลยกรรมเปลี่ยนแปลงเพศ การเสริมหน้าผากเป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างรูปทรงที่เหมาะสมกับลักษณะใบหน้าผู้หญิงหรือผู้ชาย
เสริมหน้าผากคืออะไร?
การเสริมหน้าผากใช้วัสดุทางการแพทย์คุณภาพสูงที่ออกแบบเฉพาะ วางอย่างแม่นยำบนโครงกระดูกหน้าผาก เพื่อปรับรูปร่างและความนูนของหน้าผากอย่างปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ ที่ WIH เราเน้นการใช้วัสดุและเทคนิคที่ทันสมัย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูสมจริงที่สุด
วัสดุที่ใช้ในการเสริมหน้าผาก
-
ซิลิโคนแบบสั่งทำ
-
ซิลิโคนสำเร็จรูป
-
โพลีเมทิลเมทาคริเลต (PMMA)
-
e-PTFE (Expanded Polytetrafluoroethylene) หรือ Gore-Tex
การดูแลของเราจะเริ่มต้นด้วยการปรึกษาอย่างละเอียด ศัลยแพทย์ของเราจะช่วยเลือกวัสดุและวิธีการที่เหมาะสมที่สุดกับแต่ละบุคคล
ขั้นตอนการรับบริการที่โรงพยาบาล WIH International
1. ปรึกษาและวางแผนเฉพาะบุคคล
เริ่มด้วยการตรวจสอบโครงสร้างใบหน้าและพูดคุยความต้องการอย่างละเอียด พร้อมทบทวนประวัติสุขภาพ เพื่อวางแผนผลลัพธ์ที่สมดุลและเป็นธรรมชาติที่สุด
2. การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด รวมถึงตรวจเลือดและการตรวจอื่น ๆ เพื่อความพร้อมในการผ่าตัด ทีมวิสัญญีจะพูดคุยเกี่ยวกับการวางยาสลบและความปลอดภัย ส่วนทีมพยาบาลจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการงดอาหาร ปรับยา และดูแลความสะอาดก่อนผ่าตัด
3. การวางยาสลบ
ทีมวิสัญญีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดูแลให้คุณหลับสนิทและรู้สึกสบายตลอดกระบวนการ
4. การผ่าตัดและการวางแผล
ศัลยแพทย์จะผ่าตัดด้วยเทคนิคแผลเล็ก ซ่อนแผลไว้ด้านหลังแนวผม เพื่อลดรอยแผลเป็นที่มองเห็นได้
5. การเย็บแผลและดูแลหลังผ่าตัด
เมื่อวางวัสดุเสริมเรียบร้อยแล้ว แผลจะถูกเย็บด้วยไหมละเอียดหรือใช้แม็กซ์แพทย์ พร้อมพันผ้ารัดเพื่อช่วยลดบวมและรองรับรูปทรงใหม่ของหน้าผาก
การฟื้นฟูและการดูแลหลังผ่าตัด
ช่วงแรกหลังผ่าตัด (24 ชั่วโมงแรก)
พยาบาลผู้ชำนาญจะดูแลอาการและช่วยควบคุมอาการเจ็บปวดขณะฟื้นตัวจากยาสลบ
พักรักษาที่โรงพยาบาล (1-2 คืน)
พักในห้องส่วนตัว ทีมแพทย์จะดูแลอาการบวม ช้ำ และความรู้สึกชาในบริเวณที่ผ่าตัด ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะดีขึ้นเอง พยาบาลจะดูแลแผลและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
กลับบ้านและการดูแลตนเอง
ก่อนกลับบ้าน คุณจะได้รับคำแนะนำละเอียดเกี่ยวกับการดูแลแผล การรับประทานยา และข้อควรระวัง เช่น งดออกกำลังกายหนัก หลีกเลี่ยงการยกของหนัก และสังเกตอาการผิดปกติ พร้อมข้อมูลติดต่อหากมีปัญหา
การนัดติดตามผล
นัดตรวจครั้งแรกประมาณ 7-10 วันหลังผ่าตัด เพื่อถอดไหมและประเมินการฟื้นฟู
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
-
อาการบวมและช้ำ (ปกติและชั่วคราว)
-
การติดเชื้อ (พบได้น้อยแต่มีความเสี่ยงในทุกการผ่าตัด)
-
อาการชา หรือความรู้สึกเปลี่ยนแปลงบริเวณหน้าผากและหนังศีรษะ (ส่วนใหญ่ชั่วคราว)
-
การเคลื่อนที่ของวัสดุเสริม หรือความไม่สมมาตร (พบได้น้อย โดยเฉพาะวัสดุสั่งทำ อาจต้องแก้ไข)
-
แผลเป็นที่ไม่พึงประสงค์ (แผลจะถูกวางอย่างระมัดระวังเพื่อลดการเห็นแผล)
-
แพ้วัสดุเสริมหรือยาสลบ
ข้อดีของการเลือกโรงพยาบาล WIH International
-
ทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ศัลยแพทย์ผ่านการรับรองและมีประสบการณ์สูงในศัลยกรรมเสริมหน้าผากและศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า
-
การดูแลเฉพาะบุคคล: ทุกแผนการรักษาถูกออกแบบให้เหมาะสมกับโครงหน้า ความต้องการ และลักษณะทางเชื้อชาติของผู้รับบริการ
-
การดูแลอย่างครบวงจร: ดูแลคุณตั้งแต่การปรึกษาครั้งแรกจนถึงฟื้นฟูเต็มที่ในบรรยากาศที่อบอุ่นและมืออาชีพ
-
ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ: เรามุ่งเน้นการเสริมสร้างความงามอย่างกลมกลืน เพื่อให้หน้าผากใหม่เข้ากับรูปหน้าของคุณอย่างลงตัว
-
เพิ่มความมั่นใจ: รูปหน้าที่สวยงามตามต้องการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
โดยทั่วไปแล้ว การผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 1-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละเคสและประเภทของวัสดุที่ใช้
ระหว่างการผ่าตัดจะไม่เจ็บเลย เพราะจะได้รับยาสลบหรือยาชาทางหลอดเลือดดำ หลังผ่าตัดจะมีอาการปวด ตึง หรือไม่สบายตัวบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติและสามารถควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวดที่คุณหมอจ่ายให้
- 1-2 สัปดาห์แรก: เป็นช่วงที่อาการบวมและช้ำจะเห็นได้ชัดที่สุด สามารถกลับไปทำกิจกรรมเบาๆ ได้
- 4-6 สัปดาห์: ควรงดการออกกำลังกายอย่างหนักหรือยกของหนัก
- 6-12 เดือน: อาการบวมยุบลงทั้งหมดและเนื้อเยื่อเข้าที่ จะเห็นผลลัพธ์สุดท้ายที่ชัดเจน
ศัลยแพทย์จะซ่อนรอยแผลโดยการเปิดแผลที่ บริเวณหลังไรผม เมื่อแผลหายดีและผมยาวขึ้น จะสังเกตเห็นรอยแผลเป็นได้ยากมาก
ถาวรค่ะ วัสดุที่ใช้ เช่น ซิลิโคนทางการแพทย์ ถูกออกแบบมาให้มีความคงทนสูงและสามารถอยู่ในร่างกายได้อย่างปลอดภัยตลอดชีวิต
สามารถถอดออกได้ค่ะ แม้วัสดุจะถูกออกแบบมาให้อยู่ถาวร แต่หากต้องการเอาออกหรือมีเหตุจำเป็น ก็สามารถผ่าตัดเพื่อนำออกได้ในภายหลัง
จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปทรงหน้าผากทันทีหลังผ่าตัด แต่จะยังบวมอยู่ หลังจาก 1-3 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นมาก และจะเห็นผลลัพธ์สุดท้ายที่เข้าที่และสวยงามที่สุดเมื่อครบ 6-12 เดือน
- ซิลิโคนสำเร็จรูป (Pre-formed): เป็นซิลิโคนมาตรฐานที่มีขนาดและรูปทรงมาให้เลือก ศัลยแพทย์จะเลือกชิ้นที่เหมาะสมกับคนไข้ที่สุด
- ซิลิโคนสั่งทำ (Custom): เป็นซิลิโคนที่ผลิตขึ้นมาเพื่อคนไข้คนเดียวโดยเฉพาะ โดยใช้ข้อมูลจาก CT scan เพื่อสร้างแบบจำลอง 3 มิติ ทำให้ได้ซิลิโคนที่พอดีกับสรีระและตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุด
เหมาะสมอย่างยิ่งค่ะ การเสริมหน้าผากเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญมากของการผ่าตัดแปลงเพศเพื่อปรับเปลี่ยนใบหน้าให้มีความเป็นหญิง (Facial Feminization Surgery – FFS) โดยจะช่วยลดความโหนกนูนของคิ้วและสร้างความโค้งมนของหน้าผากให้ดูหวานละมุนยิ่งขึ้น
- ก่อนผ่าตัด: ควรหยุดยาหรืออาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด (เช่น แอสไพริน, วิตามินอี) งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- หลังผ่าตัด: ควรงดการออกกำลังกายหนัก ยกของหนัก การก้มศีรษะต่ำๆ และยังคงต้องงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปอีกหลายสัปดาห์เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
